ยูเอ็นเตือนยิ่งแก้โลกร้อนช้า ยิ่งก่อความเสียหายมากขึ้น

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ร่างสุดท้ายของรายงานของคณะกรรมการระหว่างรัฐว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 มกราคม เตือนว่าหากการจัดการกับปัญหาโลกร้อนยังล่าช้าออกไป จะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น

รายงานระบุว่า ปัญหาภาวะโลกร้อนจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกว่าบรรดานานาชาติจะหันไปใช้พลังงานสะอาดและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แม้ว่านโยบายของรัฐบาลต่างๆ และนานาชาติจะพยายามร่วมมือกันเพื่อลดปัญหาสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจก แต่โลกก็ยังคงร้อนขึ้นเฉลี่ยราว 2.2 เปอร์เซ็นต์ต่อปีในช่วงปี 2543 – 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 2513 -2543 ที่มีอัตราการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกอยู่ที่ 1.3 เปอร์เซ็นต์

โดยปัจจัยหลัก 2 ประการที่เป็นต้นเหตุของการปล่อยก๊าซที่ทำให้โลกร้อนขึ้นคือ เศรษฐกิจที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สิ่งที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซมากที่สุด มาจากการเผาไหม้ของน้ำมันและถ่านหิน และคาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากคณะกรรมการดังกล่าวเตือนว่า ลำพังเพียงแค่การรณรงค์อนุรักษ์คงไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับปัญหาของการปล่อยก๊าซที่เพิ่มมากขึ้น แต่จะต้องมีความพยายามที่ชัดเจนที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการลงทุน ทำให้เป็นธุรกิจที่มีคาร์บอนต่ำ

ที่มา : newsmonitor@biothai.net
17 ม.ค.57

บทความที่เกี่ยวข้อง