สร้างสุขภาพชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น อ.วังชิ้น จ.แพร่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โพสต์นี้แอดมินยังอยู่ที่ จ.แพร่ แต่เราจะไปกันที่ อ.วังชิ้น
มี FC บอกว่า แอดมินชอบพาไปเที่ยวในอำเภอที่ไม่ค่อยรู้จัก ชื่อก็ไม่คุ้นเคย
แอดมินคิดว่าเป็นโอกาสดีนะคะ ที่เราจะได้ไปในพื้นที่อื่นๆ บ้าง

อำเภอวังชิ้นมี 7 ตำบล คือ ต.วังชิ้น ต.แม่ป้าก ต.นาพูน ต.สรอย ต.ป่าสัก ต.แม่พุง และต.แม่เกิ๋ง
ในช่วงปี 2553 มีหมอพื้นบ้านมากถึง 22 คน แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 11 คน
ที่ในอดีตมีหมอพื้นบ้านหลายคนเป็นเพราะว่า
ตั้งแต่ปี 2552 มีการฟื้นฟูและส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยเฉพาะที่ ต.แม่พุง มีหมอพื้นบ้านที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่เป็นกำลังหลักคือหมอแหว หล้าวัน ที่เชี่ยวชาญในการรักษาโรคและยังเป็นนักอนุรักษ์พันธุ์พืชสมุนไพรหายากในพื้นที่

ยังมีผู้ใหญ่บ้านที่เข้มแข็งสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพร เกษตรอินทรีย์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ตลอดจน อดีตผู้อำนวยการและครูโรงเรียนบ้านค้างปิ่นใจ ใน ต.แม่พุง เป็นสถานศึกษาที่ให้ความสนใจและสนับสนุนเด็ก ๆ ให้เห็นคุณค่าและใช้ประโยชน์สมุนไพร

นอกจากนี้ ยังมีภาคีแนวร่วม เช่น วัดนาฮาง และวัดสัมฤทธิบุญ ที่ร่วมดำเนินงานด้วยและวัดยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรอินทรีย์และสมุนไพรด้วย รวมถึงเกิดเครือข่ายหมอพื้นบ้านคนรุ่นใหม่

ที่นี่…เป็นแหล่งรวมข้อมูลพืชสมุนไพร องค์ความรู้หมอพื้นบ้านมากมาย
และคนที่นี่ ย่อมมีสุขภาวะที่ดีตามมาด้วยแน่ๆ

ที่ อ.วังชิ้น มี คณะกรรมการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพคนวัง ด้วยนะคะ
แต่กว่าจะรวบรวมตั้งเป็นคณะกรรมการฯ ได้นั้น มีการประชุมพูดคุยทำความเข้าใจกันพอสมควรค่ะ
ในส่วนของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย พระสงฆ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน หมอพื้นบ้าน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ผอ.รพ.สต.)

คณะกรรมการฯ มีส่วนขับเคลื่อนงานพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน และกิจกรรมเพื่อสุขภาวะที่ดีต่อสมาชิกในชุมชน ไม่ว่าจะเป็น…
ห้องอบสมุนไพรบ้านแม่พุงหลวง มีหมอแหว หล้าวัน และ หมอตาคำ คำวัง เป็นผู้ดูแล สมุนไพรที่ใช้เป็นสูตรยาอบตามภูมิปัญญากะเหรี่ยง และมี อสม.มาช่วยวัดความดันดูแลความปลอดภัย

คาราวานให้บริการสุขภาพด้วยภูมิปัญญาพื้นบ้านเคลื่อนที่ ประกอบด้วย การนวด ยาต้ม แช่เท้า สาธิตทำยาสมุนไพร จำหน่ายพันธุ์สมุนไพร
แอดมินไปใช้บริการมาแล้วค่ะ ทั้งห้องอบสมุนไพร หรือ แช่เท้า การได้นั่งนิ่งๆ ค่อยหายใจเข้า-ออกอย่างช้าๆ ได้สูดเอากลิ่นของสมุนไพรเข้าไปช้าๆ รู้สึกดีมากๆ เลยค่ะ …อบเสร็จแล้ว รู้สึกผ่อนคลายมาก

มีคนมาใช้บริการห้องอบสมุนไพร 50 คนต่อเดือน
แอดมินได้คุยกับคนที่มาอบสมุนไพรด้วยกัน บอกว่า มีอาการเวียนหัว พอมาอบสมุนไพรหลายๆ ครั้งแล้ว..รู้สึกดีขึ้น
คนที่มีอาการชาปลายมือปลายเท้า… ก็รู้สึกดีขึ้น
และสำหรับคุณแม่หลังคลอดพอได้อบสมุนไพรแล้ว ….ก็รู้สึกสบายตัว

อยากชวนคนที่ยังไม่เคยอบสมุนไพร ให้ลองดูนะคะ …แล้วจะติดใจ

#มูลนิธิสุขภาพไทย #สร้างสุขภาพชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น
#หมอพื้นบ้าน # อบสมุนไพร
#สุขภาพชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสุขภาพ #สสส.