จอมยุทธ์ชาวบ้าน ตำบลจอมศรี จ.อุดรธานี

หากเปรียบวิชายุทธ์ที่ต้องร่ำเรียนในสำนักผู้มีชื่อเสียงของปรมาจารย์นั้น ย่อมมีประมุขสำนักที่น่าศรัทธาบ้าง น่าเกรงขามบ้าง เป็นแม่เหล็กดึงดูให้เหล่าศิษย์ดั้นด้นมาร่ำเรียนกระบวนยุทธ์ แต่คำกล่าวที่ว่า “สูงสุดคืนสู่สามัญ” วิชายุทธ์บ้าน ๆ ไร้สำนักกลับพบเห็นมากมายในชุมชน เป็นวิชาพื้นบ้านดั่งรากไม้แผ่ขยายพยุงไม้ใหญ่ไว้ให้มั่นคง เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านไว้ต่อกรกับภัยต่าง ๆ

ที่ตำบลจอมศรี อำเภอเพ็ญ ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 60 กม. มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) 1 แห่ง รับผิดชอบ 17 หมู่บ้าน ประชากรทั้งหมด 9,248 คน (ข้อมูล วันที่ 27 ก.ค 2568) แต่ด้วยตำบลจอมศรีมีความเข้มแข็งในชุมชน มีความศรัทธาใน “วิชายุทธ์ ด้านสมุนไพรและภูมิปัญญาท้องถิ่น” ที่สืบต่อกันมาในชุมชน และมีทุนทางสังคมที่ดีงามเพราะมีปราชญ์และหมอพื้นบ้านจำนวนหนึ่งที่ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่ายหมอพื้นบ้านอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ยังมีใจอาสารวมกลุ่มกันออกให้บริการสมุนไพรเชิงรุกในชุมชน นัดเอาตามศรัทธาและปัญญาตามพระพุทธศาสนา เลือกเอาวันพระจัดกิจกรรมไปตามวัดต่าง ๆ ให้ชาวบ้านได้เรียนรู้และใช้ประโยชน์จากสมุนไพรในการดูแลตนเอง กิจกรรมตลอดเข้าพรรษานี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล

แต่ตำบลจอมศรีไม่หยุดเพียงเท่านี้ ได้ทำการสำรวจความรู้การใช้สมุนไพรในหมู่บ้านทั้ง 17 หมู่บ้าน สำรวจประมาณร้อยละ 27.5 จำนวน 2,542 หลังคาเรือน ในจำนวนนี้ชาวบ้านมีความรู้และยังใช้สมุนไพรดูแลสุขภาพเบื้องต้นทั้งหมด 679 หลังคาเรือน คิดเป็นร้อยละ 26.71 หรือเท่ากับ 1 ใน 4 ทีเดียวที่ยังมี “วิชายุทธ์สมุนไพร” หากเรียกกันตามภาษาโบราณก็อาจพูดได้ว่ามีความรู้ “ยากลางบ้าน” ซึ่งเมื่อทางตำบลจอมศรีรวบรวมแล้ว และจำแนกข้อมูลออกมาอย่างน่าสนใจ แบ่งความรู้ที่ชุมชนพึ่งตนเองได้ 5 กลุ่มอาการ ได้แก่ อาการเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ผิวหนัง กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ไข้ และตามทฤษฎีความรู้การแพทย์แผนไทยและพื้นบ้านกล่าวถึงระบบไหลเวียนโลหิตด้วย

ขอขยายรายละเอียด 5 กลุ่มอาการ ทางเดินอาหารนั้นเกี่ยวกับอาการจุดเสียดแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ แสบท้อง และท้องเสีย ผิวหนังนั้นชาวบ้านมีความรู้แก้อาการผื่นคัน แมลงสัตว์กัดต่อย แผลพุพอง แผลไหม้น้ำร้อนลวก และห้ามเลือดแผลสด กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นก็เป็นอาการปวดเมื่อยต่าง ๆ นั่นเอง ไข้ ชาวบ้านมีวิธีบรรเทาอาการตั้งแต่ไข้ ไอ เจ็บคอ และปวดศีรษะด้วย สำหรับไหลเวียนเลือดความรู้นี้เกี่ยวกับเลือดลมของสุภาพสตรี และรวมถึงกลุ่มสมุนไพรช่วยบำรุงร่างกายให้เลือดลมไหลเวียนดีด้วย

ผลการเก็บข้อมูลจำนวน 679 หลังคาเรือนใน 17 หมู่บ้านนั้น บางหมู่บ้านก็ใช้สมุนไพรจำนวนมากในบางกลุ่มอาการ แต่เมื่อนำมารวมทั้งหมดพบว่า กลุ่มที่มาอันดับต้น ๆ 1 และ 2 ใกล้เคียงกัน คือ การพึ่งตนเองได้ในกลุ่มโรคระบบทางเดินอาหาร (187 ครอบครัว) และกลุ่มโรคระบบผิวหนัง (185 ครอบครัว)แสดงว่าเป็นอาการเจ็บป่วยพื้นฐานหรือความชุกของโรคที่ชาวบ้านมีความรู้ดูแลตนเองได้ดี ต่อมาลำดับ 3 และ 4 ก็ถือว่าห่างกันไม่มาก ได้แก่ กลุ่มไข้ (126 ครอบครัว ) และระบบไหลเวียนโลหิต (116 ครอบครัว) ที่ตามมาอันดับ 5 คือ กลุ่มโรคระบบกล้ามเนื้อ (68 คน) อาจเป็นไปได้ว่า ในตำบลจอมศรีนี้มีศูนย์การเรียนรู้หมอพื้นบ้านและปราชญ์ชาวบ้าน ที่เป็นนวัตกรรมความร่วมมือ 3 ฝ่าย โดยเครือข่ายหมอพื้นบ้าน รพ.สต. จอมศรี และอบต.จอมศรี ซึ่งเปิดบริการการนวดพื้นบ้านทุกวันศุกร์ เป็นระบบสุขภาพภาคประชาชนนั่นเอง

สมุนไพรใกล้ตัวที่ชาวบ้านนำมาดูแลสุขภาพจากข้อมูลทั้งหมดนั้น ไม่ใช่เป็นสมุนไพรต้องไปบุกป่าฝ่าดงหรือขึ้นไปเสาะหาบนภูสูงแต่อย่างใด การค้นพบเรื่องธรรมดาสามัญนี้ ได้แก่ อาการทางเดินอาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อก็ใช้ เช่น ข่า ตะไค้ ใบเตย กะเพราะ ขมิ้น ถ้าท้องผูกชาวบ้านจะกินกระเจี๊ยบเขียว ขี้เหล็ก กล้วยสุก และหัวปลี กลุ่มอาการผิวหนังที่เป็นกันบ่อย ๆ ก็ใช้ เช่น ว่านหางจระเข้แก้แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลพุพอง แผลสดยังนิยมใช้ใบสาบเสือ ผื่นคันยกให้ใช้ขมิ้นชัน อาการไข้นิยมฟ้าทะลายโจรซึ่งเป็นที่รู้จักกันดี และปลูกไว้ใช้ง่ายในครัวเรือน เมื่อมีอาการไอ เจ็บคอ ก็ใช้สมุนไพรเช่น มะนาว มะขามป้อม ขิง ข่า ช่วยบรรเทาได้ด้วย และเมื่อมีอาการหวัดคัดจมูกก็นำหัวหอมแดงมาช่วยบรรเทา ถ้ามีอาการตัวร้อน ๆ ก็ยังกินน้ำใบบัวบกช่วยให้ร่างกายเย็นลงด้วย

สำหรับกลุ่มอาการเกี่ยวกับระบไหลเวียนโลหิตนั้น ชาวบ้านนิยมชงหรือต้มดื่มน้ำฝาง หรือกินขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ เพื่อช่วยไหลเวียดเลือด บางคนก็กินย่านางแดง สำหรับสมุนไพรแก้อาการปวดกล้ามเนื้อ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว ชาวจอมศรีจะใช้ใบหนาด ใบเปล้า ว่านชน(พลับพลึง) สมุนไพรทั้ง 3 อย่างนี้ นำมาย่างหรือปิ้งให้ร้อน ใช้ประคบแก้อาการปวดเมื่อยได้ดี ส่วนใบหนาด ใบเปล้าบางครั้งนำมาทำเป็นลูกประคบ หรือใส่หม้อต้มกับสมุนไพรอื่น ๆ ใช้อบหรืออาบสมุนไพร แก้ปวดเมื่อย ช่วยการไหลเวียดเลือดด้วย

ตำบลจอมศรีเป็นพื้นที่ทำงานแบบมีส่วนร่วมของมูลนิธิสุขภาพไทย พยายามสร้างรูปแบบระบบสุขภาพชุมชนด้วยการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น เครือข่ายภาคีในพื้นที่ช่วยกันทำงานอย่างดี มีความคิดสร้างสรรค์ใช้ Data driven หรือการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ทำการสำรวจจัดเก็บเป็นระบบ เพื่อนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ วางแผนการดำเนินงานให้ตอบโจทย์ของชุมชน อาจเรียกได้ว่าเป็นระบบปฐมภูมิของชาวบ้านอย่างแท้จริง ช่วยลดภาระงานในหน่วยบริการสาธารณสุข เวลานี้ชาวจอมศรีกำลังเร่งปลูกป่าสมุนไพรให้เป็นแหล่งวัตถุดิบเพื่อต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์สร้างเสริมเศรษฐกิจชุมชนด้วย (โอกาสหน้าจะมาเล่าให้ฟัง)

ขอชื่นชมแบบอย่าง”จอมยุทธ์ช่าวบ้านจอมศรี” ทีมงาน รพ.สต.,โรงพยาบาลเพ็ญ, กลุ่มงานการแพทย์แผนไทยสำนักงานสาธารณสุขอุดรธานี, อบต., กำนัน, ผู้ใหญ่, อสม., และกลุ่มหมอพื้นบ้านที่ทำงานเชิงรุกด้วยหัวใจจิตอาสา ที่สร้างสุขภาพชุมชนเพื่อชุมชน โดยชุมชนแท้จริง.

https://www.thefest.com/Images/acetoto888/ https://www.thefest.com/Images/acegaming888/ https://www.thefest.com/Images/plazaslot/
slot thailand