ปลูกยา ฟ้าทะลายโจร

ฟ้าทะลายโจรชอบอากาศร้อนชื้น พบมากในจีน อินเดีย ไทย มักขึ้นเองตามป่า เป็นพืชที่ปลูกง่าย ไม่เลือกดิน แต่โตดีในดินร่วนซุย ระบายน้ำดี ชอบแดดปานกลาง ถ้าอยู่ในที่ร่มทึบเกินไปจะทำให้โตช้า ถ้าโดนแดดจัดเกินไปจะทำให้ใบเล็กและเป็นสีม่วง

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Andrographis paniculata (Bum.f) Nees
ชื่ออื่น : คีปังฮี(จีน), ฟ้าทะลายโจร, น้ำลายพังพอน, หญ้ากันงู, ฟ้าสะท้าน

ลักษณะ
ไม้ล้มลุก สูง 30-60 ซม. ทั้งต้นมีรสขม ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม แตกกิ่งเล็กด้านข้างจำนวนมาก ใบสีเขียวเข้ม ตัวใบเรียว ปลายแหลม ดอกขนาดเล็กสีขาวประสีม่วงแดง ฝักคล้ายต้องติ่ง เมล็ดในสีน้ำตาลอ่อน

สรรพคุณเด่น
แก้เจ็บคอ ต่อมทอนซินอักเสบ ไข้หวัด ท้องเสีย ร้อนใน

วิธีใช้ในครัวเรือน
เอาใบสดหรือแห้งประมาณ 5-6 ใบ ชงด้วยน้ำเดือด 1 แก้ว ปิดฝาทิ้งไว้จนยาอุ่น รินน้ำดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร ดื่มวันละ 3 ครั้ง หรือใช้ฟ้าทะลายโจรทั้งต้น 1 กำมือ ต้มกับน้ำ 4 แก้ว ดื่มครั้งละ 1 แก้ว หลังอาหาร วันละ 3 ครั้งเช่นกัน

การปลูก และดูแล
ใช้กิ่งปักชำได้แต่เพาะเมล็ดง่ายกว่า เวลางอกเป็นต้นจะขึ้นพร้อมเพรียงกันสวยงาม เมล็ดเก็บจากจากฝักแก่สีน้ำตาลเข้ม เปลือกหุ้มแข็ง ก่อนหว่านควรกระตุ้นการงอกโดยนำเมล็ดไปแช่น้ำธรรมดาสัก 2 คืนหรือแช่น้ำร้อน 80-100 องศาเซลเซียส ประมาณ 5-10 นาที

ฟ้าทะลายโจรควรปลูกในที่มีไม้ใหญ่ช่วยบังแดดให้บ้าง แต่ยังได้แดดพอสมควร ไม่ร่มเกินไปเหมาะจะปลูกในพื้นที่ว่างระหว่างแถวไม้ผล ควรปลูกในหน้าฝน โดยเฉพาะต้นฝนราวเดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม ช่วงนี้เมล็ดจะงอกดีมาก ถ้าปลูกหน้าแล้งต้นจะเล็กไม่ค่อยมีใบ

โดยทั่วไปปลูกโดยไม่ต้องทำแปลง ยกเว้นพื้นที่ค่อยข้างลุ่มก็อาจทำแปลงยกร่องกว้าง 1-2 เมตร ไถพรวนดิน ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักพอประมาณไม่ต้องมาก ถ้าดินร่วนซุยอุดมสมบูรณ์อยู่แล้วก็แทบไม่จำเป็น หากมีเมล็ดมากพอและพื้นที่กว้าง ใช้วิธีหว่านเมล็ดโดยผสมกับทรายหยาบ เพื่อช่วยให้หว่านง่ายขึ้น หว่านให้หนาสักหน่อยถ้าหว่านบางเกินไปฟ้าทะลายโจรจะขึ้นสู้หญ้าไม่ได้ แต่หนาเกินไปก็สิ้นเปลืองเมล็ด

หากเมล็ดมีจำกัดใช้จอบขุดเป็นร่องตื้นๆ ระหว่างแถวห่างกัน 40 ซม. โรยเมล็ดลงในร่องแล้วกลบดินพำบางๆ พอไม่ให้เห็นเมล็ด หรือใช้เมล็ดหยอดหลุม ขุดหลุมลึก 3-4 ซม. แต่ละหลุมห่างกัน 30 ซม. หยอดหลุมละ 3-5 เมล็ด แล้วเกลี่ยดินกลบ ปลูกเสร็จใช้ฟางหรือหญ้าแห้งคลุมแปลง รดน้ำให้ชุ่ม

ช่วงเมล็ดเริ่มงอกหากฝนไม่ตกควรดูแลอย่าให้ขาดน้ำ พอต้นโตขึ้นไม่ต้องดูแลมาก หากฝนทิ้งช่วงอาจรดน้ำให้บ้าง ถ้ามีวัชพืชขึ้น ให้ถอนหรือใช้จอบดาย ในกรณีที่ปลูกเป็นแถวหรือหยอดหลุมจะดูแลได้ง่ายกว่า

ช่วงปลายฝน อาจพบหนอนผีเสื้อมากัดกินใบ ควรเก็บเกี่ยวก่อนที่แมลงจะเริ่มระบาด หลังเก็บเกี่ยวแต่ละครั้ง หากใส่ปุ๋ยคอกจะเร่งให้ต้นยอดและกอใหญ่ขึ้น ฟ้าทะลายโจรปลูกครั้งเดียวก็พอ ในปีต่อๆ ไปก็จะเกิดขึ้นเอง ไม่ต้องปลูกอีก

เก็บเกี่ยว
ต้นฟ้าทะลายโจรเริ่มเก็บใบเมื่ออายุได้ 3-4 เดือน (110-120 วัน) เป็นระยะที่ฟ้าทะลายโจรเติบโตเต็มที่ และเริ่มออกดอก ใช้กรรไกรตัดหรือใช้เคียวเกี่ยวมาทั้งต้น เหลือตอไว้ 10-15 ซม. เพื่อให้แตกยอดและกอใหม่ เก็บได้ปีละ 2 ครั้ง ปลูกต้นฝนจะเก็บเกี่ยวครั้งแรกราวปลายเดือนกรกฏาคม-ต้นสิงหาคม หลังจากนั้น 3 เดือนหรือต้นหนาวก็เก็บได้อีก

แปรรูป
นำฟ้าทะลายโจรมาล้างน้ำทั้งต้นประมาณ 3 ครั้ง หรือรูดเอาเฉพาะใบมาล้าง ค่อยๆ เอาใบใส่ลงในกะละมังที่ใส่น้ำสะอาด แล้วสรงน้ำ 2-3 น้ำ ใช้กระชอนหรือตะแกรงช้อนเก็บใบขึ้นมาจากกะละมังเพื่อความสะดวก เวลาล้างไม่ควรขยำหรือสรงน้ำแรงเกินไปจนใบช้ำ ไม่ควรแช่น้ำไว้ใบจะอมน้ำทำให้ชำง่าย สะเด็ดน้ำให้ใบแห้งในครั้งสุดท้าย

เอาใบที่สะอาดดีแล้วใส่กระจาดหรือตะแกรง เกลี่ยใบให้กระจายจนทั่วไม่ซ้อนทับกัน นำมาผึ่งลมประมาณ 3 วัน ไม่ควรตากแดดเพราะจะทำให้ใบซีด ถ้าตากในตู้อบแสงอาทิตย์ประมาณ 2 วัน ตากในตู้อบไฟฟ้าใช้เวลา 2 ชั่วโมง

ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
ลูกกลอน, แคปซูล, ยาอัดเม็ด, ยาหม่อง, ยาสระผม

ที่มา : หนังสือปลูกยารักษาป่า เล่ม 1
ลิขสิทธิ์จัดพิมพ์และเผยแพร่โดย มูลนิธิสุขภาพไทย

บทความที่เกี่ยวข้อง