ฟ้าทะลายโจร “ตัวช่วย” ไข้หวัดใหญ่

มิตรสหายใกล้ชิดหลายคนป่วยไข้หวัดใหญ่  จังหวัดที่หนักกว่าเพื่อนตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขมีถึง 10 จัวหวัด ได้แก่ ระยอง ภูเก็ต กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ยโสธร พัทลุง อุบลราชธานี ลำพูน นครปฐม และจันทบุรี จังหวัดอื่น ๆ ก็ติดหวัดใหญ่กันไม่น้อย ใช่ว่าจะรอดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza virus ไปได้

ในทางวิชาการแบ่งเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ไว้ 3 ชนิด(type) คือ A, B และ C สามัญชนคนทั่วไปจำง่าย ๆ ว่า ไวรัสชนิด A เหมือนกับที่กำลังระบาดอยู่ในไทยนี่แหละ คือ ชนิดที่รุนแรงสุดและมักระบาดกว้างขวางทั่วโลก ไวรัสชนิด B ชนิดระบาดในระดับภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก ส่วนชนิด C ใครติดเชื้อไวรัสแล้วจะมีอาการเล็กน้อยหรือไม่แสดงอาการป่วยเลย และไม่ทำให้เกิดการระบาด กล่าวได้ว่า ชนิด A ที่ระบาดกันได้ทุกปีนี้มักทำให้เจ็บป่วยกันมากจนบางรายอาการหนักจนเสียชีวิต วงการแพทย์ก็พัฒนาวัคซีนมาสู้กับไวรัสไข้หวัดใหญ่ ก็รณรงค์ให้กลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัวรวมถึงเด็กเล็กมาฉีดวัคซีนป้องกันไว้ เพื่อให้ใครที่ได้รับเชื้อไข้หวัดใหญ่เข้ามาแต่ในร่างการมีภูมิคุ้มกัน ก็ช่วยให้ไม่มีอาการรุนแรง หรือมีอาการน้อย ๆ

หลายคนสงสัยว่า ไข้หวัดธรรมดากับไข้หวัดใหญ่ต่างกันอย่างไร ข้อแรกคือเชื้อที่ทำให้เราไม่สบายนั้นต่างกันหรือคนละชนิดกัน ข้อต่อมาอาการหลายอย่างจะคล้าย ๆ กัน แต่ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการุนแรงกว่า ซึ่งพอจะแยกให้เข้าใจง่าย ๆ ได้ว่า ไข้หวัดใหญ่ จะมีไข้สูง ปวดหัวมาก ปวดเมื่อยตัวมาก อ่อนเพลียมาก ไอมาก และจะมีปัญหาการหายใจ หลอดลมจะอักเสบได้และถ้ารุนแรงมากจะปอดบวมได้ด้วย ส่วนไข้หวัดธรรมดาอาการเหล่านี้จะน้อยกว่ามาก เช่น บางครั้งไข้ไม่มีหรือแค่ตัวรุม ๆ เมื่อยเนื้อตัว อ่อนเพลียก็เล็กน้อย แต่ที่ไข้หวัดทั่วไปจะมีอาการมาก คือ คัดจมูก จาม และเจ็บคอแต่ไข้หวัดใหญ่อาจเจ็บคอไม่มาก โดยรวม ๆ ไข้หวัดใหญ่จะมีอาการเป็นมากกว่าหวัดทั่วไป

ทั้งไข้หวัดน้อยและไข้หวัดใหญ่นั้น มี “ตัวช่วย” เดียวกัน ที่น่าสนใจมากและพูดได้ว่าเป็นตัวช่วยตัวเดียวกันให้กับโควิด – 19 มาแล้วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาด้วย คือ ฟ้าทะลายโจร เรารู้กันดีว่าฟ้าทะลายโจรช่วยลดไข้แก้ร้อนใน แก้เจ็บคอ ลดอาการไอ เมื่อดูข้อมูลในระดับต่างประเทศโดยเฉพาะที่อินเดียและจีนที่มีการส่งเสริมและพัฒนาสมุนไพรมาต่อเนื่องนั้น มีข้อมูลการใช้ฟ้าทะลายโจรกับอาการของไข้หวัดใหญ่มาอย่างยาวนานด้วย ในการศึกษาของไทยในระดับหลอดทดลองก็พอแสดงให้เห็นศักยภาพการกำจัดไวรัสไข้หวัดใหญ่ แต่การทดลองทางคลินิกยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่ก็มีงานศึกษาทางคลินิกที่แสดงให้เห็นว่าฟ้าทะลายโจรบรรเทาอาการของไข้หวัดทั่วไปและไข้หวัดใหญ่ได้

ฟ้าทะลายโจรจึงมีส่วนช่วยลดอาการไข้หวัดธรรมดาและไข้หวัดใหญ่ซึ่งมีความสำคัญมาก ช่วยไม่ให้โรคลุกลาม และถ้าปฏิบัติตัวให้เหมาะสม พักผ่อนเพียงพอ งดทำกิจกรรมหักโหม ดื่มน้ำมาก ๆ ไม่อาบน้ำเย็น (โบราณท่านแนะให้เช็ดตัว) ก็จะเป็นอีกตัวช่วยแก้ไข้หวัดต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบันในท้องตลาดมีผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจรที่เป็นรูปแบบยาฟ้าทะลายโจรองค์รวม คือเป็นผงยาธรรมชาติ และยาสกัดสารสำคัญ ในมุมมองของแพทย์แผนไทยก็จะนิยมใช้ยาแบบองค์รวมได้รับสาระสำคัญหลายชนิด ส่วนยาสกัดก็เน้นสารสกัดฟ้าทะลายโจร ที่ชื่อ แอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ถ้ากินแบบยาสกัดก็แนะนำให้กินให้ได้สารแอนโดรกราโฟไลด์ วันละ 60 – 120 มก.แต่ถ้ากินตามแนวได้ยาองค์รวมเป็นยาผง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน อย. โดยปกติก็ให้ดูวิธีใช้ตามฉลาก ปกติกิน ครั้งละ 1- 2 แคปซูล (ขนาด 500 มิลลิกรัม/แคปซูล) หรือ 2 – 4 แคปซูล (ขนาด 250 มิลลิกรัม/แคปซูล) หรือ แนวโบราณที่คนยังนิยมเป็นยาเม็ดลูกกลอน ครั้งละ 5-10 เม็ด วันละ 3 เวลาก่อนอาหาร 3 มื้อ ให้ดีกินก่อนนอนด้วย และเมื่ออาการดีขึ้นหรือหายแล้วก็หยุดยา

ในการศึกษาสมัยใหม่ยังพบข้อมูลตรงกับภูมิปัญญาว่า สรรพคุณฟ้าทะลายโจรจะออกฤทธิ์เป็นตัวช่วยแก้ไข้หวัดทั้งหายได้ดีต้องกินให้เร็วที่สุด เมื่อรู้ว่าเริ่มมีอาการและได้กินยาจะได้ผลมากว่าเป็นมาแล้วหลายวัน จึงแนะนำให้รีบกินยาใน 48 ชม.แรก หรือ 2 วันแรกที่มีอาการไข้หวัด ฟ้าทะลายโจรจึงควรเป็นยาประจำบ้าน ประจำสำนักงาน ประจำวัด โรงเรียน และที่ต่าง ๆ เป็นยาสามัญประจำทุกที่ อย่างไรก็ตาม หากอาการไข้หวัดใหญ่ไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน แนะนำให้ไปโรงพยาบาล เพราะอาการน่าจะรุนแรงเกินกว่าจะดูแลตนเอง และไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจรกับสตรีมีครรภ์

ฟ้าทะลายโจร (Andrographis paniculata (Burm.f.) Wall.ex Nees) เป็นพืชล้มลูกปลูกแล้วไม่ต้องกลัวสูญพันธุ์ ปลูกแล้วจะเป็นวัชพืชที่ขึ้นแล้วลามไปในพื้นที่อื่น ๆ ที่หน้าสำนักงานมูลนิธิสุขภาพไทยตั้งแต่โควิด-19 ระบาด ได้นำเมล็ดมาโปรยไว้ยังงอกงามเปลี่ยนรุ่นแบ่งปันให้เพื่อนบ้านนำไปใช้หลายรอบแล้ว แม้จะมีตัวช่วยที่ดี ก็อย่าลืม มาตรการใส่หน้ากาก ล้างมือ กินร้อน ช้อนส่วนตัว ช่วยป้องกันไวรัสไข้หวัดทุกสายพันธุ์ได้เสมอ.