สหภาพยุโรป มีมติยกเลิกใช้ยาฆ่าแมลงที่มีสาร “นิโอนิโคตินอยด์”

สหภาพยุโรปลงคะแนนด้วยมติ 15 ต่อ 8 เสียงให้ยกเลิกการใช้ยาฆ่าแมลงที่มีสารนิโอนิโคตินอยด์ โดยตามกฎของสหภาพยุโรป พวกเขาสามาระเลือกให้มีการแบนสารนิโอนิโคตินอยด์ได้เป็นเวลา 2 ปี (เนื่องจากมีเสียงส่วนใหญ่นั้นไม่ถึงกฎที่สามารบังคับใช้ร่างกฎหมายดังงกล่าวได้เป็นการถาวร)

คณะกรรมาธิการยุโรปจะผลักดันให้มติดังกล่าวมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ธันวาคมนี้ โดยหลังจากการลงคะแนนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายโตนิโอ บอร์ก คณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขของสหภาพยุโรประบุว่า คณะกรรมาธิการจะดำเนินการในด้านเอกสารต่อไปในสัปดาห์หน้า

โดยในรายงานของหน่วยงานด้านความปลอดภัยด้านอาหารของสหภาพยุโรป (European Food Safety Agency – EFSA) เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ระบุว่า การใช้ยาฆ่าแมลงนั้นเป็นความเสียงอย่างมากต่อแมลง และเชื่อว่าสารนีโอนิโคตินอยด์ในยาฆ่าแมลง เป็นอันตรายต่อผึ้ง โดยเฉพาะผึ้งป่า เช่น ผึ้งโพรง (honey bee) ซึ่งสามารถช่วยในการสืบพันธุ์พืชผลมากกว่า 1/3 ของโลก

มติของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปครั้งนี้ จะใช้เฉพาะกับพืชพันธุ์ที่ผึ้งชอบมาตอม และธันญาหารในฤดูหนาว โดยการแบนนั้นคลอมคลุมถึงการห้ามขายและการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ใช้สารนิโอนิโคตินอยด์ ตลอดจนยกเลิกการขายสารดังกล่าวให้กับผู้เพราะปลูกมือสมัครเล่นด้วย

กฎระเบียบการห้ามนีโอนิโคตินบางอย่างมีการนำไปใช้แล้วในฝรั่งเศสเยอรมนี อิตาลี และสโลวีเนีย โดยสารทั้ง 3 ชนิดที่เป็นีอนิโคตินอยด์ได้แค่ โคลไธอานิดิน (Clothianidin) อิมิดาโคลไพรด์ (Imidacloprid) และไธอาเมโทแซม (Thiametoxam)

อย่างไรก็ตาม มีเสียงต่อต้านจากอีกฝ่ายในเรื่องนี้ โดยเกษตรกรและนักวิชาการด้านพืชผลหลายคน โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ออกมาต่อต้าน เพราะเชื่อว่าข้อมูลไม่เพียงพอ โดยการโต้เถียงในประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องหนักหน่วง เมื่อนักวิชาการบางกลุ่มออกมาโต้ว่า นอกจากยาฆ่าแมลงแล้ว ยังมีไรวารัว์ (Varroa Mite) และเชื้อไวรัสต่างๆที่เป็นอัตรายต่อผึ้งเช่นกัน

การศึกษาหลายฉบับออกมาก่อนหน้านี้ระบุว่าสารเคมีที่ผลิตโดยบริษัทบาเยอร์ และ ซิงเกนต้า มีผลกระทบทางลบต่อผึ้ง โดยการศึกษาชิ้นหนึ่งระบุว่า นิโอนิโคตินอยด์นั้นส่งผลกระทบต่อความสามารถของผึ้งงานนการสร้างราชินีผึ้ง โดยในรายงานล่าสุดรายงานว่ายาฆ่าแมลงนั้นทำลายสมองของผึ้ง

อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม อาหาร และชนบท ของสหราชอาณาจักรโจมตีว่าการศึกษาเหล่านี้ปฏิบัติกันในห้องทดลอง ทำไมไม่สามารถสะท้อนความเป็นจริงได้

ที่มา : มติชนออนไลน์

บทความที่เกี่ยวข้อง