เพาะรัก

“การมีใครสักคนที่รักเรา หรือได้รักใครสักคนอย่างไว้ใจ

มันอาจทำให้เรารู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้ ความรักจึงมีคุณค่าและความหมายที่ยิ่งใหญ่…”

“จิ๋ม” หรือ ศิริธร เสาวกุล มีโอกาสเข้ามาดูแลและทำกิจกรรมกับเด็กในสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ในฐานะอาสาสมัคร “โครงการสัมผัสกาย สัมผัสรัก” ของ มูลนิธิสุขภาพไทย การที่เธอได้เข้ามาทำกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่องนานกว่า ๒ ปี ทำให้รู้สึกรักและผูกพันกับเด็ก ที่นี่โดยเฉพาะกับน้องฟ้า

“ดูแลเขามาตั้งแต่ ๔ เดือน ครั้งแรกที่เห็นเขาเป็นเด็กหน้าที่ไม่มีความสุขเลย เป็นเด็กหน้าง้ำ เหมือนกับว่าชีวิตนี้ตั้งแต่อยู่ในท้องจนเกิดมา ๓-๔ เดือน ไม่เคยเจอความสุขหรือเปล่า… เราคิดไปขนาดนั้น ตอนแรกหนักใจเหมือนกัน คิดว่าในใจว่าน้องตาล (ผู้ประสานงานของโครงการฯ) เลือกเด็กอะไรมาให้เนี่ย”

แต่วันเวลาที่ล่วงเลยมา ทำให้คนทั้งสองใกล้ชิดและผูกพันประหนึ่งกับญาติที่คุ้นเคยกันมานาน

น้องฟ้าเป็นเด็กที่อายุน้อยที่สุดเท่าที่จิ๋มเคยดูแลมา จึงรู้สึกหนักใจ เนื่องจากไม่เคยเลี้ยงเด็กเล็กมาก่อน แต่ก็พยายามเรียนรู้นิสัยและธรรมชาติของเด็กให้มากที่สุด บางครั้งได้คุยขอความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกจากพี่สาว บางครั้งก็ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ประจำโครงการฯ

ในระยะแรก ที่จิ๋มทำกิจกรรมนวดสัมผัส เนื่องจากน้องฟ้าเป็นเด็กที่ผิวแพ้ง่ายมาก ไม่สามารถใช้น้ำมันนวดทาตัวได้ จึงไม่ได้นวดเต็มรูปแบบ ทำได้แค่เพียงบางท่าเท่านั้น นอกเหนือจากนั้น เธอยังมองว่าอยากเสริมทักษะด้านพัฒนาการให้รุ่งฟ้าควบคู่ไปด้วย

“ตั้งเป้าไว้ที่ละเปาะ เป็นเป้าหมายเล็กๆ ขยับขึ้นไปเรื่อยๆ พอเขาทำได้ เราก็มีความสุข ตั้งแต่คว่ำ พอคว่ำได้ ก็ทำยังไงเขาจึงจะหงาย จนปัจจุบัน เขาเดินได้เก่งแล้ว คนอื่นเห็นก็บอกทำไมเดินได้เร็ว พอเห็นเขาทำได้มันเป็นความชื่นใจ พัฒนาการด้านอารมณ์ก็ถือว่าดีขึ้น ตอนนี้คนเห็นเขายิ้มเก่งขึ้น ถือเป็นดาวเด่นในตึก” จิ๋มเล่าให้ฟังด้วยดวงตาที่ยิ้มและเปี่ยมสุข

“ป้าจิ๋ม” ของน้องฟ้า บอกว่าหากวันหนึ่งน้องฟ้าต้องพ้นจากบ้านปากเกร็ดนี้ไปอยู่สถานสงเคราะห์ที่อื่น เธอจะยังคงตามไปเยี่ยมเยียนน้องฟ้าที่บ้านหลังใหม่

“น่าจะเรียกได้ว่าเป็นความผูกพัน เหมือนเป็นเพื่อนเราคนหนึ่ง เด็กทั่วไปอาจมีปู่ย่าตายาย แต่เขาไม่มีใคร ในบ้านปากเกร็ดแห่งนี้คนแวดล้อมเขาอาจจะมีเยอะ แต่จะมีใครสักคนที่เป็นของเขาจริงๆ หรือเป็นญาติของเขา”

“เหมือนเราปลูกต้นไม้ต้นหนึ่ง เราก็อยากเห็นเขาเติบโต ออกลูกออกดอก”

ถึงวันเมล็ดพันธุ์ผลิบานในหัวใจ
กิจกรรมนวดสัมผัสและกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการต่างๆ ที่เหล่าอาสาสมัครเข้ามาช่วยเสริมให้แก่เด็กๆ ที่นี่ จึงเป็นสิ่งที่มีประโยชน์และมีคุณค่าอย่างมาก โดยเฉพาะการทำกิจกรรมกับเด็กเล็กซึ่งเป็นวัยที่ต้องการการดูแลจากผู้ใหญ่อย่างใกล้ชิด

แม้ในความหม่นมัวบางด้านของสังคม ที่แห่งนี้ยังคงมีดวงไฟแห่งความหวังเล็กๆ ปรากฏอยู่ในหัวใจของอาสาสมัครอีกหลายๆ คน รวมถึงจิ๋มด้วย

“คิดว่าตัวเองเป็นอณูที่เล็กมากๆ อย่างที่รู้มาคือ ที่นี่มีเด็กกำพร้าเข้ามาเกือบทุกวัน ขณะเดียวกันที่นี่ไม่ใช่สถานสงเคราะห์แห่งเดียวในเมืองไทย ฉะนั้นเด็กที่ไม่มีใครดูแล จึงมีเยอะแยะมาก เราแค่คนเดียว ช่วยเด็กได้คนหนึ่ง ดูเหมือนน้อยนิดก็จริง แต่ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย คิดว่าช่วยได้เท่าไหร่ ก็ทำให้ดีที่สุด”

“เราคิดว่าเด็กตัวเล็กๆ เท่านี้ ถ้าเขาอารมณ์ดี มีความสุข อย่างน้อยโตขึ้นเขาก็คงไม่เลวร้ายอะไร มันเป็นการปูพื้นฐาน เหมือนการสร้างบ้าน ถ้าฐานไม่ดี บ้านก็อยู่ไม่ได้ ตอนนี้เราค่อยๆ วางอิฐทีละก้อนให้เขา”

แม้งานอาสาสมัครที่จิ๋มทำอยู่นี้อาจเป็นเรื่องราวเล็กๆ เรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคม แต่ก็ช่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความฝันของคนคนหนึ่งที่อยากเห็นเด็กตัวเล็กๆ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี และเธอยังแอบหวังลึกๆ ว่าวันข้างหน้าสังคมน่าจะดีหรืออย่างน้อยอย่าเลวร้ายไปกว่านี้

สิ่งตอบแทนของจิ๋มและอาสาสมัครทุกคนที่เข้ามาทำงานในโครงการนี้ มิใช่เงินทอง หรือเกียรติบัตรสรรเสริญคุณความดี หากแต่เป็นความปิติสุขจากการได้เห็นเด็กที่สองมือของตนมีส่วนช่วยอุ้มชูดูแลแต่ละคนค่อยๆ โตเติบและเรียนรู้ไปทีละก้าว มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งได้รับความรักที่เด็กตัวน้อยมอบให้อย่างบริสุทธิ์ใจ

“ตอนแรกที่มาก็มองว่า เรามาในฐานะของผู้ให้ เพราะเท่าที่รับรู้มาคือเด็กขาดสิ่งโน้น ขาดสิ่งนี้ ขาดความรัก ไม่มีพัฒนาการที่สมวัย เราคิดว่าอยากมาช่วย มาด้วยคำว่าให้”

“แต่นั่นมันเป็นการมองแค่มิติเดียว หลังๆ มา เราก็รู้สึกว่าเราไม่ได้มาให้เขาอย่างเดียว แต่มันเป็นความสุขใจ เหมือนวันอาทิตย์จะเป็นวันที่เรารอคอยเพื่อจะได้มาเล่นกับเด็ก จะได้มาอยู่กับคนคนหนึ่งที่กำลังเติบโตได้อย่างสมวัยสวยงาม นั่นก็เป็นความหวังลึกๆ ในใจ”

นี่อาจเป็นเรื่องราวในมุมเล็กๆ มุมหนึ่งของสังคม ที่อาจมิได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่มันเป็นความงดงาม

“ความสุขเกิดขึ้นจากความรักที่แท้จริงเท่านั้น
ความรักที่แท้มีพลังในการเยียวยา และแปรเปลี่ยนสถานการณ์รอบๆ ตัวเรา
นำพาความหมายล้ำลึกมาสู่ชีวิต
มีคนที่เข้าใจพลังของรักแท้ และวิธีที่จะบ่มเพาะบำรุงมัน”

เมตตาภาวนา : คำสอนว่าด้วยรัก
ติช นัท ฮันท์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ของขวัญปีใหม่ ด้วยใจอาสา

admin 19 มิถุนายน 2019

ดูรายละเอียด การสมัครเป็นอาสาสร้างสุขให้เด็กในสถานสงเคร […]

ทศวรรษฉลาดทำบุญ กับคุณค่าต่อสังคม

admin 19 มิถุนายน 2019

งาน 10 ปี โลก(จิต)อาสา : ทศวรรษฉลาดทำบุญกับคุณค่าต่อสัง […]