แพทย์แผนไทยขอขึ้นทะเบียนยาเอง เหตุ อย.ทำงานช้า

กรมแพทย์แผนไทย ตั้งคณะอนุฯ ดึงงานขึ้นทะเบียนยาแผนไทยจาก อย. มาพิจารณาเอง แก้ปัญหาคอขวดขึ้นทะเบียนล่าช้า ระบุเตรียมพัฒนาเป็น คกก. ยาแผนไทยในอนาคต หลังมี พ.ร.บ. ยาฉบับใหม่ พร้อมตั้งงบ 1.5 ล้านบาท พัฒนา สสจ. 10 แห่ง รับขึ้นทะเบียนยาแผนไทยสูตรเดี่ยวและยาตำรับ

นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวถึงกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมตั้งคณะกรรมการยาแผนไทยโดยเฉพาะ เพื่อรองรับร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ และแก้ปัญหา “คอขวด” การขึ้นทะเบียนยาแผนไทยล่าช้า ว่า กรมฯ เพิ่งมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการยาแพทย์แผนไทย ภายใต้คณะกรรมการยาแห่งชาติ เพื่อดูแลเรื่องยุทธศาสตร์ยาแผนไทย และปลดอุปสรรคการขึ้นทะเบียนยาแผนไทย โดยมีคณะทำงาน 2 ชุด ทำหน้าที่เร่งรัดเรื่องการขึ้นทะเบียนยาแผนไทยโดยเฉพาะ และชุดเร่งรัดการประเมินมาตรฐานการผลิต (GMP) อย่างไรก็ตาม อย.ยังคงเป็นหน่วยงานรับขึ้นทะเบียนยาแผนไทยเช่นเดิม แต่คณะทำงานชุดเร่งรัดการขึ้นทะเบียนฯ จะประสานขอข้อมูลของผู้ที่ต้องการขึ้นทะเบียน ทั้งเอกสารงานวิจัย งานวิชาการต่างๆ มาพิจารณา ซึ่งจะมีความรวดเร็วกว่า เพราะผู้พิจารณาเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์แผนไทยและยาแผนไทย ซึ่งหากผ่านการพิจารณาก็จะส่งกลับไปให้ อย. อนุมัติทันที

“เรื่องนี้ได้มีการประสานกับเลขาธิการ อย. แล้ว คาดว่า เร็วๆ นี้ จะสามารถประสานขอข้อมูลการขึ้นทะเบียนยาแผนไทยมาพิจารณาเองได้ และในอนาคตจะพัฒนาคณะอนุกรรมการยาแผนไทยให้เป็น คณะกรรมการยาแผนไทย เมื่อร่าง พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ประกาศใช้ ซึ่งจะต้องมีการแยกคณะกรรมการยาออกเป็น คณะกรรมการยาแผนปัจจุบัน คณะกรรมการยาแผนไทย และคณะกรรมการยาสัตว์” นพ.ธวัชชัย กล่าวและว่า คณะทำงานชุดนี้จะช่วยพิจารณาด้วยว่ายาแผนไทยในรูปแบบใหม่ๆ เช่น น้ำมันนวดสมุนไพรแบบสเปรย์อัดแก๊ส ที่ อย. ผลักดันให้เป็นยาแผนปัจจุบันนั้น ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนไทยหรือแผนปัจจุบันกันแน่ โดยจะพิจารณาจากตัวยา และส่วนผสม อย่างเช่นสเปรย์อัดแก๊สมีส่วนผสมของแก๊สอะไร ส่งผลต่อสรรพคุณยาหรือสุขภาพหรือไม่ เป็นต้น

นพ.ธวัชชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ เพื่อให้การขึ้นทะเบียนยาแผนไทย มีความรวดเร็วขึ้น กรมฯจึงเตรียมขยายจุดการขึ้นทะเบียนเฉพาะยาแผนไทยประเภทยาเดี่ยว เช่น ฟ้าทลายโจร ขมิ้นชัน ฯลฯ และยาตำรับที่เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ให้สามารถขึ้นทะเบียนได้เลยที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) 10 แห่ง กระจายตามเขตต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกรมฯเพิ่งอนุมัติงบประมาณ 1.5 ล้านบาท ให้ สสจ. ประสานช่วยพัฒนาบุคลากรให้สามารถเป็นหน่วยรับขึ้นทะเบียนยาแผนไทยสูตรเดี่ยวและยาตำรับได้ แต่กลุ่มยาตำรับนั้นจะต้องรอการรวบรวมคู่มือให้เสร็จสิ้นเสียก่อน โดยจะเริ่มจากตำราในยาบัญชียาหลักแห่งชาติก่อน และจะขยายยานอกบัญชีในอนาคต คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ใน ก.ย. นี้

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ 25 ก.พ.2558

บทความที่เกี่ยวข้อง